หัวข้อ   “ อะไรทำให้การศึกษาไทยถดถอย ในความคิดเยาวชน
เยาวชน 66.3% เห็นด้วยว่าการศึกษาไทยในปัจจุบันอยู่ในยุค ตกต่ำ ย่ำแย่
70.7 % ยอมรับตัวเองตั้งใจเรียนลดลง ใช้social media และเรื่องอื่นๆ มากไป
ทำให้การศึกษาไทยแย่กว่าประเทศเพื่อนบ้าน
77.0% พบพฤติกรรมครูสอนปล่อยเกรด ไม่เข้มงวด ไม่จริงจัง
ยก ณเดช ญาญ่า แต้ว เป็นต้นแบบด้านการเรียน
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                 เนื่องในวันที่ 20 กันยายนที่จะถึงนี้เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ ศูนย์วิจัย
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
จึงได้สำรวจความคิดเห็นเยาวชนในหัวข้อ
“อะไรทำให้การศึกษาไทยถดถอย ในความคิดเยาวชน” โดยเก็บข้อมูลกับเยาวชน
อายุ 15-25 ปี ที่พักอาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,167 คน พบว่า
 
                  กิจกรรมที่เยาวชนทำแต่ละวันในช่วงเวลาว่างหลังจากการเรียน คือ
ดูหนัง ฟังเพลง ดูทีวี (ร้อยละ 72.2)
รองลงมา เล่นอินเทอร์เนต เช่น facebook,line
(ร้อยละ 63.6) และอ่านหนังสือ ร้อยละ 47.1
 
                  เมื่อถามเยาวชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากจะกล่าวว่า “การศึกษาไทย
ในปัจจุบันอยู่ในยุค ตกต่ำ ย่ำแย่” เยาวชนส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 66.3 เห็นด้วย
กับคำกล่าวดังกล่าว (โดยให้เหตุผลว่าครู/อาจารย์มีประสิทธิภาพน้อยลง
ระบบการเรียนการสอนทำให้นักเรียนขาดความกระตือรือร้น ติดโลกออนไลน์
มากไป ฯลฯ)
และมีเพียงร้อยละ 7.0 เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย (โดยให้เหตุผลว่า การเรียน
การสอนยังดีอยู่ มีมาตรฐาน ไม่ได้รู้สึกแย่ ฯลฯ) ที่เหลือร้อยละ 26.7 ไม่แน่ใจ
 
                 ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้คุณภาพการศึกษาไทยอันดับแย่ลงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน (จากข้อมูลของ "World
Economic Forum”) เยาวชนร้อยละ 70.7 คิดว่าสาเหตุดังกล่าวเกิดมาจาก ตัวนักเรียนเองที่มีสมาธิ/ความตั้งใจเรียน
ลดลง เช่น ใช้เวลากับ social media และเรื่องอื่นๆ มากกว่าการเรียน
รองลงมาร้อยละ 42.5 คิดว่ามาจากปัญหา
การเมืองส่งผลทำให้นโยบายการศึกษาไม่ต่อเนื่อง และร้อยละ 35.6 คิดว่ามาจากหลักสูตรการเรียนการสอนที่ไม่เข้มข้น
 
                  สำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครู อาจารย์ ที่เยาวชนเคยพบเห็น คือ สอนแบบปล่อยเกรด ไม่เข้มงวด
ไม่จริงจัง (ร้อยละ 77.0)
รองลงมาคือ สอนอย่างไม่มีความพร้อม ไม่เตรียมการเรียนการสอน (ร้อยละ 64.6) และเน้น
สอนพิเศษ/เชิญชวนให้เรียนพิเศษ ไม่เน้นสอนในห้องเรียน (ร้อยละ 56.9)
 
                 ส่วนดาราที่เยาวชนเห็นว่าเป็นต้นแบบที่ดีในด้านการเรียน อันดับ 1 คือ ณเดช คูกิมิยะ (ร้อยละ 11.7)
อันดับ 2 คือ ญาญ่า อุรัสยาและแต้ว ณฐพร (ร้อยละ 11.4 เท่ากัน)
 
 
                 ดังรายละเอียดต่อไปนี้
 
             1. กิจกรรมในแต่ละวันที่เยาวชนทำในช่วงเวลาว่างหลังจากการเรียน คือ

 
ร้อยละ
ดูหนัง ฟังเพลง ดูทีวี
72.2
เล่นอินเทอร์เนต (facebook,line)
63.6
อ่านหนังสือ
47.1
ออกกำลังกาย
39.6
ทำงานบ้าน
32.0
ช่วยงาน/กิจการครอบครัว
26.1
เล่นเกมส์ออนไลน์
26.0
เดินห้าง/ซื้อของ
25.9
เรียนพิเศษ
16.0
ทำกิจกรรมชมรม
13.3
เที่ยวกลางคืน
8.0
อื่นๆ อาทิ ทำงานpart time ทำการบ้าน ทำรายงาน ฯลฯ
5.8
 
 
             2. เมื่อถามว่า เยาวชนเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าจะกล่าวว่า “การศึกษาไทยในปัจจุบันอยู่ในยุค ตกต่ำ ย่ำแย่”

 
ร้อยละ
เห็นด้วย
(โดยให้เหตุผลว่า ครู/อาจารย์มีประสิทธิภาพน้อยลง ระบบการเรียน
  การสอนทำให้นักเรียนขาดความกระตือรือร้นคิดวิเคราะห์ไม่เป็น
  ขาดความตั้งใจเรียน ไม่ชอบอ่านหนังสือ ติดโลกออนไลน์มากไป ฯลฯ)
66.3
ไม่เห็นด้วย
(โดยให้เหตุผลว่า บางโรงเรียนสอนได้ดี การเรียนการสอนยังดีอยู่ มีมาตรฐาน
  ไม่ได้รู้สึกแย่ ฯลฯ)
7.0
ไม่แน่ใจ
26.7
 
 
             3. สาเหตุที่ทำให้คุณภาพการศึกษาไทยอันดับแย่ลงกว่าประเทศ เพื่อนบ้าน คือ (จากการจัดอันดับ
                 คุณภาพการศึกษาของประเทศในกลุ่มอาเซียน ในการประชุมของ"World Economic Forum ” )

 
ร้อยละ
ตัวนักเรียนเองที่มีสมาธิ/ความตั้งใจเรียนลดลง เช่น ใช้เวลากับ social
media และเรื่องอื่นๆ มากกว่าการเรียน
70.7
ปัญหาการเมืองส่งผลทำให้นโยบายการศึกษาไม่ต่อเนื่อง
42.5
หลักสูตรการเรียนการสอนที่ไม่เข้มข้น
35.6
คุณภาพครูผู้สอนแย่ลง(ปล่อยเกรด ไม่เข้มงวด)
34.2
ครอบครัว/คนรอบข้าง/สังคม ไม่เอื้อต่อการศึกษา เรียนรู้
24.9
โรงเรียน/สถาบันการศึกษาไม่ให้ความสำคัญกับคุณภาพการศึกษา
24.8
อื่นๆ อาทิ อัดเนื้อหาวิชามากจนเกินไปทำให้นักเรียนเบื่อ การบ้านเยอะไม่มีเวลา
อ่านหนังสือ ฯลฯ
6.3
 
 
             4. พฤติกรรมต่อไปนี้ของ ครู อาจารย์ ที่เยาวชนเคยพบเห็น

พฤติกรรม
เคยเห็น
ไม่เคยเห็น
ไม่ออก
ความเห็น
สอนแบบปล่อยเกรด ไม่เข้มงวด ไม่จริงจัง
77.0
21.3
1.7
สอนอย่างไม่มีความพร้อม ไม่เตรียมการเรียนการสอน
64.6
33.9
1.5
เน้นสอนพิเศษ/เชิญชวนให้เรียนพิเศษ
ไม่เน้นสอนในห้องเรียน
56.9
40.4
2.7
ชอบใช้ความรุนแรง เฆี่ยนตี ด่าทอ แบบไม่มีเหตุผล
41.5
55.5
3.0
ลวนลามทางเพศ/ใช้สายตาคุกคาม/หาโอกาสถูกเนื้อต้องตัว
22.8
72.9
4.3
ดื่มเหล้า มีกลิ่นเหล้า ในเวลางาน
14.5
81.6
3.9
 
 
             5. ดาราที่เยาวชนเห็นว่าเป็นต้นแบบที่ดีในด้านการเรียนให้แก่เยาวชน 5 อันดับแรก คือ
                 (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)

 
ร้อยละ
อันดับ 1 ณเดช คูกิมิยะ
11.7
อันดับ 2 ญาญ่า อุรัสยา
11.4
อันดับ 2 แต้ว ณฐพร
11.4
อันดับ 4 เบเบ้ ธันย์ชนก
6.8
อันดับ 5 ริท เดอะสตาร์
6.6
 
 
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ:
                  เพื่อสำรวจความคิดเห็นของเยาวชนต่ออันดับการศึกษาของไทยที่ลดลง พฤติกรรมและการเรียนการสอน
ของครู/อาจารย์และนักเรียน รวมถึงศิลปินดารา นักร้อง ที่เห็นว่าเป็นบุคคลต้นแบบในด้านการเรียนให้แก่เยาวชน
เพื่อสะท้อนมุมมองของเยาวชนให้สังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ
ดำเนินงานต่างๆ ต่อไป
 
ประชากรที่สนใจศึกษา:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากเยาวชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีอายุ 15 – 25 ปี
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  การสำรวจนี้เป็นการวิจัยโดยการเลือกตัวอย่างประชากรโดยไม่อาศัยหลักความน่าจะเป็น (Non-probability
sampling) จึงเป็นการเลือกตัวอย่างประชากรแบบเจาะจง (Purposive sampling) และดำเนินการเก็บข้อมูลโดยใช้
การสัมภาษณ์แบบพบตัว โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถาม
แบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Ended) ซึ่งนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุด
มาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  : 11 – 15 กันยายน 2557
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 18 กันยายน 2557
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
   
             ชาย
563
48.2
             หญิง
604
51.8
รวม
1,167
100.0
อายุ:
 
 
             15 – 17 ปี
504
43.2
             18 – 25 ปี
663
56.8
รวม
1,167
100.0
การศึกษา:
 
 
             มัธยมปลาย / ปวช.
587
50.3
             ปริญญาตรี / ปวส.
580
49.7
รวม
1,167
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)    โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776